อยากจะสร้างบ้านสักครั้งในชีวิต การเลือกผู้รับเหมาก่อสร้างดูจะเป็นเรื่องสำคัญ เพราะงานจะดีมีคุณภาพหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับผู้รับเหมาเป็นหลัก หากจ้างมาแล้วผู้รับเหมาทำงานไม่มีคุณภาพ ทิ้งงาน มีพฤติกรรมคดโกง เจ้าของบ้านคงต้องมานั่งเสียใจภายหลังอย่างแน่นอน อีกทั้งต้องเสียเงินหลายครั้งในการมาซ่อมและยังเสียเวลาหาผู้รับเหมาคนใหม่
วันนี้เสริมไทจึงมีข้อมูลที่ดี มีประโยชน์ให้เจ้าของบ้านได้อ่านก่อนจะจ้างผู้รับเหมาเพื่อให้ได้งานดี ไม่ทิ้งงานให้เจ้าของบ้านต้องมานั่งปวดหัวภายหลังกันค่ะ
1. ประวัติดี ไว้ใจได้ ไม่ทิ้งงาน
เลือกผู้รับเหมาที่น่าเชื่อถือ ซื่อสัตย์ ประวัติดี หรือลองสอบถามจากผู้ที่เคยใช้บริการมาก่อนว่าผู้รับเหมาทำงานดีไหม ทิ้งงานไหม ต้องมาซ่อมแซมงานภายหลังหรือเปล่า และควรหาข้อมูลผู้รับเหมาไว้หลายๆ ที่เพื่อเปรียบเทียบผู้รับเหมาที่มีคุณภาพ และเปรียบเทียบราคาว่าจ้างงาน เลือกผู้รับเหมาที่เป็นบริษัทมีทีมพร้อมติดตั้ง มีรายละเอียดสำหรับติดตามงาน เช่น เบอร์โทร ที่อยู่บริษัท
2. ประสบการณ์และผลงานที่เคยทำ
หากยังไม่แน่ใจว่าผู้รับเหมาที่จ้างจะมีคุณภาพพอไหมลองหาผลงานต่างๆ ของผู้รับเหมาที่เคยทำไว้ ว่าสวย และมีคุณภาพตรงกับความต้องการเราหรือไม่ ผลงานจะทำให้เรารู้ว่าผู้รับเหมาเคยทำงานลักษณะไหนมาบ้างแล้ว เพราะลักษณะงานก่อสร้างนั้นก็มีหลายแบบ ฉะนั้นก็ต้องดูความถนัดของผู้รับเหมาด้วยว่าถนัดงานลักษณะที่เราจะจ้างเค้าแค่ไหน
3. ราคาเหมาะสมกับคุณภาพงาน
เลือกผู้รับเหมาที่เสนอราคาเป็นกลางๆ ไม่ถูกหรือแพงจนเกินไป ลองเอาราคาที่ผู้รับเหมาเสนอมาไปเทียบเคียงกับคนรู้จักที่เคยสร้างบ้านมาก่อนว่าราคานี้เป็นไปได้ไหม เพราะงานที่มีราคาถูกและแพงจนเกินไปไม่ได้วัดถึงคุณภาพของงานได้ งานที่มีราคาถูกอาจจะได้วัสดุที่ไม่ได้มาตรฐานและงานที่มีราคาที่แพงก็อาจจะถูกคิดราคาที่เกินความเป็นจริงได้เช่นกัน
4. ทำสัญญาว่าจ้างกับผู้รับเหมาเป็นลายลักษณ์อักษร
สิ่งสำคัญของการว่าจ้างคือหนังสือสัญญาจ้าง เพื่อให้เกิดความเสี่ยงในการจ้างงานน้อยที่สุด เป็นการตกลงร่วมกันระหว่างสองฝ่าย สัญญาที่ดีจะต้องมีเนื้อหาชัดเจน เช่น ขอบเขตการทำงานว่าเป็นการสร้างบ้านหรือการต่อเติม, เงื่อนไขการจ่ายเงินจ่ายแต่ละครั้งเป็นจำนวนเท่าไหร่, มีการรับประกันงานกี่ปี, รวมถึงค่าปรับในกรณีที่งานล่าช้า และสัญญาจะต้องสามารถปฏิบัติได้ และเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย
5. ทำ Bill of Quantity หรือ BOQ
เอกสารแสดงราคากลางในการก่อสร้างที่ใช้ในขั้นตอนการหาผู้รับเหมาก่อนที่จะทำการก่อสร้าง โดยจะแสดงรายละเอียดเป็นรายการที่แสดงปริมาณงานและราคาวัสดุก่อสร้างที่ถอดมาจากแบบก่อสร้างทั้งหมด BOQ ยังใช้เป็นเอกสารเปรียบเทียบราคาว่าจ้างผู้รับเหมาแต่ละเจ้า บอกรายละเอียดการก่อสร้าง ใช้คุมงบประมาณในการก่อสร้างได้เพราะ BOQ จะระบุข้อมูลวัสดุก่อสร้างอย่างครบถ้วน เช่น ราคา ปริมาณวัสดุ ชื่อแบรนด์ ชื่อรุ่น เรายังใช้ BOQ ในการตรวจสอบการทำงานของผู้รับเหมาได้ ว่าใช้วัสดุตรงตามสเปคหรือไม่
6. ตรวจงานเป็นประจำ
เพื่อเป็นการเช็คงานของช่างว่าได้ทำงานตามที่ตกลงกันไว้ไหม โดยสามารถอ้างอิงได้จากหนังสือสัญญา หรือให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยดูให้เพราะการตรวจสอบบ้านบางจุดเจ้าของบ้านอาจจะไม่มีความรู้ในการก่อสร้าง หากมีผู้เชี่ยวชาญเข้าไปตรวจงานกับเราด้วย จะทำให้เจ้าของบ้านมั่นใจได้ว่างานจะมีคุณภาพ แต่หากงานยังไม่สมบูรณ์มีจุดที่ต้องแก้ก็ให้ผู้รับเหมาแก้ไขให้เสร็จก่อนจะเงินงวดสุดท้าย เพราะถ้าจ่ายไปก่อนแล้วผู้รับเหมาอาจจะทิ้งงานก็เป็นได้